โรคไรขี้เรื้อนเปียกในสุนัข
Demodex Canis
เรียบเรียงบทความโดย สพ.ญ.จริยา รุ่งเรือง (คุณหมอนก)
ไรขี้เรื้อนเปียกในสุนัข คืออะไร
ไรขี้เรื้อนเปียกหรือไรขี้เรื้อนชุมชนในสุนัข (Demodex canis, Demodex mites) เป็นปัญหาที่พบบ่อยในสุนัขที่เลี้ยงในประเทศไทย โดยไรชนิดนี้จะใช้เนื้อเยื่อผิวหนังที่ตายแล้วเป็นอาหาร ซึ่งโดยปกติแล้วไรชนิดนี้อาจพบได้บนผิวหนังของสุนัขโดยไม่ทำให้เกิดโรค (นอกจากจะมีจำนวนมาก) การเกิดโรคอาจเกี่ยวข้องกับสุขภาพของสุนัข ความเหมาะสมของสารอาหารที่สุนัขได้รับ หรือภูมิคุ้มกันของตัวสุนัขเอง
ลักษณะผิวหนังของสุนัขที่เป็นไรขี้เรื้อนเปียก
สุนัขที่มีปัญหาไรขี้เรื้อนเปียกจะพบจุดขนร่วงบริเวณใบหน้า หัว แก้ม ริมฝีปาก รอบตา ขาหน้า ผิวหนังบริเวณที่ขนร่วงอาจมีสะเก็ดรังแคหรือผิวหนังที่มีสีเข้มมากกว่าปกติ มักไม่ค่อยมีอาการคันหรืออักเสบ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอาจมีการแพร่กระจายลุกลามไปตามส่วนอื่นของร่างกายได้ โดยอาจมีขอบเขตของขนที่ร่วงเพิ่มมากขึ้น ผิวหนังอักเสบ มีรังแคคลุมและมีสีเข้มมากขึ้นและมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนร่วมด้วยได้ เนื่องจากผิวหนังไม่แข็งแรงจากการติดไรขี้เรื้อน ทำให้สุนัขเกิดอาการคันมาก มีการอักเสบมากขึ้น และมีหนองร่วมด้วยได้ โดยมักเกิดกับสุนัขอายุ 3-6 เดือน หรือต่ำกว่า 1 ปี
ภาพแสดงลักษณะของสุนัขที่มีปัญหาไรขี้เรื้อนเปียก พบขนร่วงเป็นหย่อมๆ ร่วมกับผิวหนังอักเสบกระจายทั่วร่างกาย
การตรวจวินิจฉัยไรขี้เรื้อนเปียก
การตรวจและวินิจฉัยสามารถทำได้ โดยสัตวแพทย์จะขูดผิวหนังหรือดึงเส้นขนบริเวณที่มีอาการ แล้วนำไปส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ ร่วมกับการวินิจฉัยถึงปัญหาแทรกซ้อนอย่างอื่น เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย โรคผิวหนังจากการแพ้แบบต่างๆ ร่วมด้วย
ภาพจากกล้องจุลทรรศน์ แสดงลักษณะตัวไรขี้เรื้อนเปียก
(Demodex canis, Demodex mites)
การรักษาและการป้องกันไรขี้เรื้อนเปียก
การรักษาไรขี้เรื้อนเปียกสามารถทำได้โดยการใช้ยาที่มีฤทธิ์กำจัดโดยตรง ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายชนิด ทั้งรูปแบบยาฉีด กินและหยดบริเวณหลัง แต่ละชนิดมีความถี่ในการให้ยาที่แตกต่างกันไป ร่วมกับการทานยารักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง พร้อมกับการฟอกหรืออาบด้วยแชมพูยา สัปดาห์ละ 2 ครั้งหรือทุกๆ 3 วัน เพื่อเป็นการชะล้างเศษเนื้อเยื่อผิวหนังที่เป็นอาหารของไรขี้เรื้อนเปียกออก ในส่วนของการป้องกัน สามารถทำได้โดยป้อน ฉีดหรือหยดยาที่หลัง ตามความเหมาะสมของสุนัขแต่ละตัว
แหล่งอ้างอิง:
ณรงค์ กิจพาณิชย์ และ ปิยะรัตน์ จันนทร์ศิริพรชัย, โรคผิวหนังสุนัข วิธีจัดการในคลินิก, พิมพ์ครั้งที่ 3, (นนทบุรี : บริษัท ตีรณสาร จำกัด, 2556), หน้า 140.
เพื่อให้สัตว์ได้รับบริการการรักษาที่ถูกต้องโดยสัตวแพทย์ หากพบอาการที่ผิดปกติหรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถาม/นัดหมายเพื่อเข้าตรวจล่วงหน้าได้ที่ 3 ช่องทางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ